เนื้อหาของบทความนี้จะเกี่ยวกับเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100 หากคุณกำลังมองหาเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100มาถอดรหัสหัวข้อเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100กับEckert Crane Daysในโพสต์การใช้สารเคมีในบ่อปลาอย่างเข้าใจนี้.

ภาพรวมของเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100ที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเอกสารในการใช้สารเคมีในบ่อปลาอย่างเข้าใจ

ดูตอนนี้วิดีโอด้านล่าง

ที่เว็บไซต์eckertcranedays.comคุณสามารถอัปเดตความรู้อื่น ๆ นอกเหนือจากเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับคุณ ที่เว็บไซต์EckertCraneDays เราอัปเดตข่าวสารใหม่และแม่นยำสำหรับผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง, ด้วยความหวังว่าจะมอบคุณค่าที่ละเอียดที่สุดให้กับผู้ใช้ ช่วยให้คุณเสริมข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้ครบถ้วนที่สุด.

หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100

📣📣 ประชาสัมพันธ์ 💊💊💊 การใช้ยาผสมอาหาร เพื่อการรักษาโรคปลาอย่างได้ผล การเลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์ เชื่อว่าหลายท่านคงเคยมีประสบการณ์ใช้ยารักษาโรคปลามาบ้างแล้ว ซึ่งบางครั้งทำให้การรักษาไม่ได้ผล วันนี้ ศพจ.นครศรีธรรมราช กรมประมง ขอแชร์ประสบการณ์การใช้ยาปฏิชีวนะ/วิตามิน ดังนี้ 1.ใช้ยาให้ถูกกับโรค เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด ใช้ยาเมื่อพบปลาป่วยในระยะแรก พบจำนวนปลาป่วย มีอาการผิดปกติ 3-5% ของปลาทั้งหมด ยังมีโอกาสรักษาได้ 2. ใช้ยาในการรักษา ไม่ใช่เพื่อป้องกัน เพราะจะทำให้เชื้อโรคดื้อยาได้ การรักษาภายหลังไม่ได้ผล และการใช้ยาบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น จะทำให้ตับปลาถูกทำลายเร็วขึ้น ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญ เลี้ยงปลาต้องดูแลตับให้ดีที่สุด ตับที่ดีจะมีสีแดงเลือดหมู หากตับเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีไม่สม่ำเสมอแสดงว่าสุขภาพปลาเสื่อมโทรม การรักษาโรคติดต่อของปลาที่เลี้ยงในกระชังหรือบ่อ หากรักษาด้วยการแช่ยาปฏิชีวนะ ที่ต้องใช้ยาจำนวนมหาศาล ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย เพราะบ่อใหญ่เกินไปที่จะใช้วิธีนี้. ดังนั้นการผสมยากับอาหารจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ปลาได้รับยาเข้าสู่ตัวปลาโดยตรง การใช้ยา/วิตามินในสัตว์น้ำ หากผสมยากับอาหารโดยตรงแล้วนำอาหารนั้นให้ปลากิน โอกาสที่ยาจะละลายน้ำ สูญเสียยา มีสูงถึง 100% เหมือนเราซื้อยาราคาแพง มาละลายน้ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และการรักษาก็ไม่ได้ผลเช่นกัน 4.จึงต้องมีตัวช่วยประสานยาและอาหารให้ติดกัน ขอแนะนำวัสดุที่หาง่าย คือ ใช้แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด ช่วยจับตัวยากับเม็ดอาหารปลาก่อน โดยใช้แป้ง 1 ช้อนโต๊ะ ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม ผสมแป้งกับยาก่อนในถุงพลาสติกแล้วเขย่าจนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อทำเช่นนี้การสูญเสียยาในน้ำจะลดลงประมาณ 20-30% ปลาจะได้รับยา 70-80% ซึ่งดีกว่าการใช้ยาในอาหารโดยตรง 5. ในขณะเดียวกันเราต้องคำนึงถึงความชื้นของเม็ดอาหารปลา อาหารปลาที่เราเปิดกระสอบใหม่ เม็ดอาหารแห้งเกินกว่าที่เม็ดจะเกาะได้ ดังนั้นต้องผสมอาหารเม็ดกับน้ำสะอาดให้เม็ดเปียกทั่ว ๆ ก่อนผสมเม็ดอาหารกับอาหารปลา จึงผสมยากับอาหารปลาให้เข้ากัน จนมองไม่เห็นคราบแป้งสีขาวบนเม็ดอาหาร ไม่ควรให้มากเกินไปจนอาหารเหลือ เพราะระบบย่อยอาหารของปลาที่ป่วยยังไม่แข็งแรง เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา *** *** ขอย้ำกับดวงด้วย *** ขั้นตอนนี้สำคัญมาก *** เพราะหากเก็บไว้นอกตัวยาเมื่อพบ ความชื้นในเม็ดอาหารและอุณหภูมิอากาศสูง ตัวยาจะเสื่อมสภาพได้ถึง 50% ภายใน 2-3 วัน การรักษาจะไม่ได้ผลเต็มที่อีก ทุกวันจะดีที่สุด แต่ถ้าปลากินแล้วยังมีอาหารเหลืออยู่ ควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา เก็บได้ไม่เกิน 3-5 วัน 9. การจัดการปลาตายออกจากบ่อ ควรตักทิ้งทุกวัน ไม่ควรทิ้งไว้ที่ปากบ่อ เพราะหากสัตว์อื่น นก สุนัข แมว มากินปลาตายที่อื่น เชื้อโรคมีโอกาสแพร่กระจายไปยังปลาบ่ออื่นได้ ดังนั้นเพื่อให้การรักษาได้ผลดีควรตักปลาที่ตายออกให้หมด แล้วนำไปฝังกลบ โรยปูนขาว ก่อนกลบหน้าดิน เพื่อป้องกันสัตว์คุ้ยเขี่ยหรือกำจัดโดยการเผา. เพื่อให้ความร้อนทำลายเชื้อโรคให้ตายได้ เช่นกัน หากเราเข้าใจการใช้ยา ควบคู่ไปกับการจัดการบ่อเลี้ยงที่ดี เราก็จะประสบความสำเร็จในการรักษาโรคสัตว์น้ำนั้นๆ ได้ ดังนั้นจึงช่วยลดการสูญเสียผลผลิตในช่วงที่เกิดโรคได้ 📍 ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค เมื่อใช้ยาใดๆ กับสัตว์น้ำ ควรหยุดใช้ยาก่อนจับสัตว์น้ำขาย **** “ไม่น้อยกว่า 21 วัน”**** ด้วยความห่วงใยจาก ทช. นครศรีธรรมราช กรมประมง ด้วยความห่วงใย จาก ศพจ.นครศรีธรรมราช กรมประมง

รูปภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่เกี่ยวกับเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100

การใช้สารเคมีในบ่อปลาอย่างเข้าใจ

นอกจากการหาข่าวเกี่ยวกับบทความนี้แล้ว การใช้สารเคมีในบ่อปลาอย่างเข้าใจ คุณสามารถค้นหาบทความเพิ่มเติมด้านล่าง

ดูข่าวเพิ่มเติมที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้องกับเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100

#การใชสารเคมในบอปลาอยางเขาใจ.

[vid_tags].

การใช้สารเคมีในบ่อปลาอย่างเข้าใจ.

เอ็นโรฟล็อกซาซิน 100.

เราหวังว่าเนื้อหาที่เราให้ไว้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอบคุณมากสำหรับการดูข้อมูลเอ็นโรฟล็อกซาซิน 100ของเรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *